นี่คือแนวคิด การพัฒนาองค์ความรู้ให้กับเด็ก และเยาวชน ที่ Next Step ให้ความสำคัญมานาน ตั้งแต่เริ่มทำรายการสำรวจโลก เมื่อเกือบ 20 ปีที่ผ่านมา

อมรภัทร ชมรัตน์ กรรมการผู้จัดการได้พูดบนเวที Video Exchange Asia Conference กรุงเทพฯ เมื่อเดือน พฤษภาคม 2562

หัวข้อในวันนี้คือ เราจะใช้บริการ Pay TV พัฒนาคนรุ่นใหม่ สู่การเป็นผู้นำได้อย่างไร

ผมกำลังพูดถึงโทรศัพท์มือถือ อุปกรณ์แห่งอนาคต ซึ่งมีทั้งข้อดีและข้อเสีย มันเป็นเทคโนโลยีใหม่ ขณะเดียวกันก็มีผลกระทบต่อพัฒนาการทางสมองของเด็ก ไม่ใช่ตัวโทรศัพท์เองที่สร้างปัญหาแต่เป็นเพราะภาพเคลื่อนไหวเร็วในเกม และวิดีโอทางออนไลน์ที่ทำลายสมอง

เมื่อ 2 ปีที่แล้วมีหนังสือพิมพ์ ชื่อว่า เดลินิวส์ ลงข่าวหน้าหนึ่ง ใจความว่า มีเด็กไทยกว่า 420,000 คนมีปัญหาภาวะสมาธิสั้น หรือ ADHD ซึ่งเป็นจำนวนที่สูงมากเมื่อเทียบกับเด็กทั้งหมดในประเทศ และกำลังเพิ่มจำนวนมากขึ้นทุกปี ผู้ปกครองทำอย่างไรกับลูกของพวกเขา?

ตามปกติแล้วเด็กอายุต่ำกว่า 5 ปีส่วนใหญ่มักจะซุกซนพ่อแม่จึงมอบโทรศัพท์มือถือให้ลูกๆ เล่นเกม ดูภาพต่างๆ แต่มันจะไม่เป็นอันตรายหากเป็นภาพที่เคลื่อนไหวช้า แต่ถ้าคุณปล่อยให้ลูกเล่นเกมที่เคลื่อนไหวเร็วๆ นั่นคือปัญหาใหญ่ แม้ว่าเด็กจะหยุดร้องไห้ หยุดซน และอยู่เงียบๆ แล้วอยู่กับโทรศัพท์ แต่ปัญหาที่ตามมาคือ เมื่อเด็กได้เห็นภาพเคลื่อนไหวเร็วจากโทรศัพท์ มันจะปิดกั้นการพัฒนาของสมอง

โครงข่ายประสาทสมองเด็กจะเริ่มพัฒนาจากหลังมาหน้า เริ่มตั้งแต่ 0- 5 ปี, 6-8, 9-12, 13-18 ปี ตามลำดับ และจะยังคงพัฒนาต่อไปจนถึงอายุ 25 ปีดังนั้นการที่คุณเริ่มทำงานที่แรก จึงเป็นพื้นฐานที่สำคัญที่สุดที่จะพาไปสู่ความสำเร็จ สำหรับสมองเด็ก ช่วงเวลาที่น่าทึ่งที่สุดคือแรกเกิดถึง 3 ปีเด็กแรกเกิดจะมีขนาดสมองคิดเป็น 25% ของสมองผู้ใหญ่ และภายใน 3 ปี สมองจะเติบโตเป็น 80% ซึ่งเป็นเรื่องที่น่าทึ่งมากสำหรับเด็กแรกเกิด จะเห็นได้ว่า ในช่วง 3 ปีมีการเชื่อมต่อระบบประสาทถึง 1 ล้านครั้ง/วินาที

ซึ่งมีความสำคัญอย่างมากต่อเด็ก และเป็นช่วงเวลาที่เหมาะสมต่อการเรียนรู้มากที่สุด โดยได้รับอิทธิพลจากหลายช่องทาง อย่างที่เห็นในชาร์ต การเรียนรู้ด้านตัวเลขจะมากที่สุดเมื่ออายุ 3 ปี ด้านสังคม การมีปฏิสัมพันธ์กับเด็กคนอื่นๆ ซึ่งส่งผลต่อการเข้าสังคมในอนาคต ด้านสัญลักษณ์ต่างๆ คุณอาจประหลาดใจว่าทำไมเด็กจึงสามารถจดจำสัญลักษณ์ของรถยนต์ หรือแม้แต่ชื่อไดโนเสาร์ พวกเขาสามารถบอกได้หมด นั่นเป็นเพราะสมองของพวกเขายังมีข้อมูลไม่มากนัก

ทุกสิ่งที่คุณมอบให้จึงมีความสำคัญอย่างมาก หรือถ้าต้องการให้เด็กสามารถสื่อสารได้หลายภาษา ก็จะต้องฝึกตั้งแต่ช่วงก่อน 3-5 ปี แม้ว่าเขาจะไม่สามารถพูด โต้ตอบกับคุณได้ แต่พวกเขาสามารถเข้าใจได้ว่าคุณกำลังพูดอะไร คุณสามารถป้อนภาษาให้กับเขาได้ ไม่ว่าจะเป็น ไทย อังกฤษ จีน เยอรมัน หรืออื่นๆ ในด้านการมองเห็น พฤติกรรมการตอบสนอง การได้ยิน และการควบคุมอารมณ์ คุณสามารถฝึกการควบคุมอารมณ์ให้กับลูกได้ในช่วงอายุนี้ ซึ่งจะทำให้เขาสามารถควบคุมตัวเองได้เมื่อโตขึ้น และการพัฒนาด้านสุดท้ายคือด้านการเคลื่อนไหวร่างกาย

การพัฒนาของสมองเด็กจะเกิดขึ้นได้จากหลายช่องทาง รวมไปถึงความสัมพันธ์ ประสบการณ์ และสภาพแวดล้อม ซึ่งการพัฒนานี้จะดำเนินต่อไปจนถึงอายุ 18 หรือ 25 ปี อะไรคือสิ่งที่ผมต้องการเน้นย้ำในตอนนี้ สิ่งสำคัญที่ทำให้เกิดปัญหาไม่ใช่ตัวโทรศัพท์เอง แต่เป็นภาพเคลื่อนไหวเร็วจากโทรศัพท์ แล้วเนกซ์สเตปทำอะไรบ้างเมื่อรับรู้ถึงปัญหานี้ ความเชื่อของเราคืออะไร เราเชื่อว่าความรู้คือพลัง

“ศักยภาพสร้างได้เมื่อเกิดการเรียนรู้” เราเชื่อว่าจะสามารถสร้างการเรียนรู้ภายในครอบครัวชนบททำให้เขาได้เรียนรู้เท่าเทียมกับเด็กที่อยู่ในเมืองใหญ่ ให้เขาสามารถแข่งขันกับเด็กคนอื่นๆ ได้ อย่างในวิดีโอที่เราจะให้ชมต่อไปนี้ครับ

ตอนนี้ประเทศไทยมีอยู่ทั้งหมด 23 ล้านครัวเรือน และแต่ละครัวเรือนจะมีโทรทัศน์อยู่ 1-2 เครื่อง เราจะทำอย่างไรเพื่อใช้โทรทัศน์เป็นเครื่องมือเผยแพร่ประสบการณ์ และความรู้ให้กับคนไทย อย่าลืมว่ากรุงเทพฯ ไม่ใช่ทั้งหมดของประเทศไทย คุณจะเห็นความแตกต่างเมื่อออกไปนอกเมือง กรุงเทพฯ จะเปรียบได้กับ ฮ่องกง สิงคโปร์ ฯลฯ แต่ต่างจังหวัดนั้นมีความแตกต่างออกไป โดยเฉพาะพื้นที่ที่สัญญานอินเทอร์เน็ตเข้าไม่ถึง ช่องว่างระหว่างคนรวยกับคนจนนั้นค่อนข้างมาก

ในเมืองไทยโทรทัศน์ที่มีอยู่ทุกบ้านจึงเป็นเครื่องมือที่ดีที่สุดในการเผยแพร่ความรู้ และประสบการณ์ไปยังครอบครัวคนไทย แต่สิ่งที่สำคัญที่สุดคือ เนื้อหารายการ เราต้องการคอนเทนต์ที่เหมาะสมกับวัยของเด็ก เราจะเห็นว่าปกติทีวีจะมี 2 รูปแบบ คือ ฟรีทีวี ที่มีรายได้จากการโฆษณา คุณไม่ต้องเสียค่าใช้จ่าย มีเนื้อหาที่หลากหลาย และไม่มีการแบ่งหมวดหมู่ แต่ถ้าคุณอยากจะให้ลูกๆ ได้เรียนรู้มากขึ้น

คุณอาจต้องพึ่งพาช่องทางอื่นๆ เช่น Pay TV ที่สามารถเลือกเนื้อหาให้เหมาะกับความต้องการ แต่คุณต้องเสียค่าใช้จ่ายเพิ่ม ซึ่งใน Pay TVจะมีช่องที่คัดเลือกมาให้เหมาะกับแต่ละช่วงวัย นั่นคือสิ่งที่เรากำลังทำอยู่ Pay TV มักจะมีราคาค่อนข้างสูง ประมาณ 16 – 40 ดอลลาร์ เพื่อรับชมรายการดีๆ นั่นคือช่องว่างระหว่างชนชั้น รายได้ของคนไทยจะมีลักษณะแบบพีระมิด และนี่คือชนชั้นกลางลงมาที่มีสัดส่วนมาก ฟรีทีวีสร้างขึ้นสำหรับคนกลุ่มนี้เพื่อดึงเรตติงจากพวกเขา แต่เราต้องการนำความรู้ไปแทนที่รายการเหล่านั้น ถ้าจะบอกว่า Pay TV คือตัวเลือกที่ดี แล้วควรจะมีราคาเท่าไหร่ ซึ่งผมจะบอกทีหลัง

เราเลือกเครือข่ายที่เหมาะสมที่สุด แทนที่จะใช้สายเคเบิลที่ครอบคลุมแค่ในเมือง นั่นจึงเป็นเหตุผลที่เนกซ์สเตปเลือกใช้จานดาวเทียมเพื่อสร้างแนวคิดใหม่เกี่ยวกับโครงข่ายทีวีดาวเทียม เพื่อส่งสัญญาณทั่วประเทศ สิ่งที่เราต้องการคือการเผยแพร่ข้อมูลไปสู่ชนบทซึ่งเป็นสิ่งที่ผู้คนที่ร่ำรวยหรือคนในเมืองใหญ่เข้าถึงได้ เราต้องการให้เด็กๆ มีคุณภาพการศึกษาที่ดีขึ้น ดาวเทียมจะสามารถเข้าถึงได้ทั้งในเมืองและในชนบท และระบบ DTH จะช่วยแก้ไขปัญหาการศึกษาได้ ช่วงเวลาที่ดีที่สุดในการเรียนรู้คืออายุ 0-5 ปี และนี่คือพัฒนาการของเด็กในวัยต่างๆ คือ 0-5, 6-8, 9-12, 13-18 คุณสามารถดูไล่มาจากซ้ายสุดคือ 0-5จะพัฒนาด้านการเรียนรู้ ความจำ และการจดจำภาษา 6-8 จะเป็นช่วงของการปลูกฝังอุปนิสัยที่ดี เช่น Animal Show 9-12 ปี จะสร้างจินตนาการและความคิดสร้างสรรค์

 

เราก็มีช่องสำรวจโลก ซึ่งจะให้ประสบการณ์เกี่ยวกับสัตว์ป่า ธรรมชาติ วิทยาศาสตร์ โบราณคดี รวมกันอยู่ในนั้น เมื่อโตขึ้นอายุ 13-18 ปี จะเริ่มมีความคิดเป็นตรรกะ เราก็มีช่องวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี อย่าง MySci

อะไรคือสิ่งที่เราต้องการ? ในประเทศของเรามีการเรียนอยู่สองแบบด้วยกัน คือจากในโรงเรียน และการอ่านนอกโรงเรียน ไม่ว่าจะเป็น หนังสือ ตำรา หรือสื่อใหม่ๆ อย่างที่เรากำลังทำอยู่คือ Pay TV ที่เรียกว่า Good TV ในโรงเรียนเด็กๆ จะได้เรียนรู้ความรู้ที่เป็นพื้นฐาน กรณีศึกษา กิจกรรมต่างๆ และฝึกการแก้ไขปัญหา ไม่ใช่การศึกษาทางเดียวแบบที่เคยเป็นมา และ Pay TV จะให้ประสบการณ์ เปิดกว้างทัศนคติ และสร้างแรงบันดาลใจ ข้อเท็จจริงคือ

มีผู้ปกครองเพียง 30% เท่านั้น ที่มีความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับการพัฒนาสมองของเด็ก เราอาจต้องการโรงเรียนสำหรับผู้ปกครองให้เรียนรู้การเลี้ยงดูลูก มากกว่าการสอนให้เด็กๆ เป็นนักวิทยาศาสตร์ เป็นนักบิน หรือเป็นอะไรก็ตาม กลับมามองที่ทีวีในเมืองไทย ในความเป็นจริงเรามีอะไรบ้าง เรามีช่องนับร้อยช่องในแพลตฟอร์ม ถ้าคุณมองดูสภาพแวดล้อมในประเทศไทย จะเห็นได้ว่าฟรีทีวีครอบคลุมกว่า 70% ของตลาด

ซึ่งเรากำลังจะเปลี่ยนมันอย่างช้าๆ โดยเปลี่ยนฟรีทีวี ไปเป็น Pay TVที่มีราคาถูก และเหมาะสม ทีวีดาวเทียมส่วนใหญ่ในไทย มีช่องเป็นร้อยๆ แต่กลับรู้สึกว่าไม่รู้จะดูอะไร และนี่คือวีธีแก้ หากคุณมี Good TV คุณจะมีครบทุกอย่าง ทั้งสารคดี ภาพยนตร์ ซีรีส์ ช่องรายการใหม่ๆ จากดาวเทียม ไม่มีการจำกัดพื้นที่ไม่ว่าจะในกรุงเทพ ต่างจังหวัด พื้นที่ห่างไกล บนภูเขา หรือบนเกาะ นี่คือสิ่งที่เรามี

เราใช้เทคโนโลยีใหม่ล่าสุดของการส่งสัญญาณดาวเทียม H.265 หรือ HEVC เป็นรายเดียวของประเทศ มีความคมชัดระดับ Full HD 1080p ซึ่งดีต่อทีวีจอใหญ่ รวมกับช่องรายการที่มีคุณภาพ ในราคา 8 ดอลลาร์/เดือน สำหรับช่อง HD 30 ช่อง จากทั้งหมด 70 ช่อง ปัจจัยสำคัญของความสำเร็จคือ เราพยายามที่จะเป็นทีวีที่ดีเหมือนกับชื่อ Good TV เราไม่มีช่องขายยาที่ไม่ผ่านมาตรฐานอย. ไม่มีช่องขายสินค้าที่ไม่ผ่านการคัดกรอง หรือไม่มีช่องดูดวงที่ทีวีดาวเทียมส่วนใหญ่มีกัน

เรามีเพียงแพ็กเกจเดียวในราคา 8 ดอลลาร์ ไม่ต้องเลือกแพ็กเกจ แม้ว่าเราจะมีแค่แพ็กเกจเดียว แต่เราพยายามทำโปรโมชันให้หลากหลาย อย่าง 3 เดือน 6 เดือน และ 12 เดือนแถมฟรี 1 เดือน และถ้าคุณแนะนำเพื่อนบ้านให้กับเราได้ฟรี 1 เดือน

ผมค่อนข้างแปลกใจที่ทีวีดาวเทียมมักมีหลายแพ็กเกจ ซึ่งเป็นเหมือนฝันร้ายสำหรับผู้ให้บริการแพลตฟอร์ม กุญแจของความสำเร็จคือช่องสำรวจโลกที่ทำมา 20 ปี เพื่อนๆ หลายคนของผมบอกว่าคนที่ดูสารคดีคือคนรวย เป็นผู้ชาย และได้รับการศึกษา ฯลฯ แต่มันไม่ใช่เลย คนที่ดูสำรวจโลกคือคนทั่วไปที่อยู่ในชนชั้นรองลงมา ทุกคนที่ต้องการจะได้รู้มากขึ้น เห็นในสิ่งที่ไม่เคยเห็น ซึ่งสโลแกนที่ว่า “เห็นในสิ่งที่ไม่เคยเห็น” มาจากคนที่เคยเขียนจดหมายมาหาเรา เมื่อ 20 ปีที่แล้วที่เรายังสื่อสารผ่านจดหมายเราได้รับโปสการ์ดจำนวนมากทุกสัปดาห์ ซึ่งเป็นสิ่งที่น่าอัศจรรย์ใจมากในยุคนั้น เราผสมผสานทุกอย่างไว้ด้วยกัน Animal Show จะเกี่ยวกับชีวิตสัตว์ป่า ธรรมชาติ MySci เกี่ยวกับเทคโนโลยี ตรรกะต่างๆ สำหรับเยาวชน และเราสร้างช่องที่มีเนื้อหาจากในประเทศเท่านั้น ไม่ว่าจะเป็น พิพิธภัณฑ์ ชายหาด รวบรวมสถานที่ เรื่องราวที่คุณอาจไม่เคยเห็น ไม่เคยทำมาก่อน แต่คุณสามารถพบเจอได้ในประเทศไทย อย่างช่องของดีประเทศไทย หรือ Thainess TV

ดังนั้นการดูสารคดีจะช่วยเพิ่มประสบการณ์ ความฝัน ได้เรียนรู้โลกกว้าง สร้างจินตนาการ แรงบันดาลใจ ทำให้มีเป้าหมายชีวิต และพัฒนาตัวเอง วันหนึ่งเมื่อได้เรียนรู้ทั้งหมดนี้แล้ว สิ่งที่จะเกิดขึ้นต่อไปคือ เขาจะเติบโตเป็นผู้ใหญ่ที่มีคุณภาพในอนาคต


นอกจากนี้เรายังร่วมมือกับ ABAC สถาบันที่ผมเคยเรียนระดับมหาวิทยาลัย สถาบันสอนบริหารธุรกิจที่ดีที่สุดในไทยและมีการเรียนการสอนเป็นภาษาอังกฤษ เรามอบทุนปีละ 100 ทุน ด้วยวิธีการสอบที่ง่ายมาก ปกติการสอบเข้าเรียนจะมีข้อสอบคณิต อังกฤษ ฯลฯ แต่เราใช้เพียงการดูโทรทัศน์เป็นภาษาอังกฤษ แค่ฟังและตอบคำถามจากสิ่งที่ได้ยินลงไป ใครที่ได้คะแนนมากกว่า 70% ก็มีสิทธิที่จะได้ทุนเรียนฟรีตลอด 4 ปี เราใช้เงินกับโครงการนี้ 350,000 บาทต่อทุน นี่คือการตอบแทนให้กับสังคมและจะทำต่อไป เพื่อสร้างผู้นำรุ่นใหม่ให้กับประเทศ

จากประสบการณ์ด้านสื่อ 20 ปี ของเนกซ์สเตปทำให้เราเชื่อว่า Good TV จะเป็นเครื่องมือในการพัฒนาเด็กไทยเพื่อเป็นผู้นำรุ่นใหม่ได้

ขอบคุณครับ